ไมค์ไลฟ์สดที่มีระบบตัดเสียงรบกวน ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายทอดสด หรือการอัดคลิปเสียงคุณภาพดี เพราะเวลาที่คุณกำลังพูดอย่างตั้งใจ แต่ดันมีเสียงรบกวนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงสุนัขเห่า ทารกร้องไห้ รถวิ่งผ่าน หรือแม้กระทั่งเสียงพัดลมในห้องที่ดังจนทำให้ผู้ชมเบื่อหน่าย
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวการร้ายที่ทำลายคอนเทนต์เสียงคุณภาพเยี่ยมที่ทุกคนปรารถนา สำหรับครีเอเตอร์ นักขายไลฟ์สด หรือใครก็ตามที่ต้องการให้เสียงของตนเองโดดเด่น และชัดเจน โดยไม่ถูกกลบด้วยเสียงแวดล้อมอื่นๆ ไมค์ไลฟ์สดที่มีระบบตัดเสียงรบกวนจึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้
.
ไมค์ไลฟ์สดตัดเสียงรบกวน ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร?
ไมค์ที่เหมาะสำหรับการไลฟ์สดนั้น จำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญหลายประการ เพื่อให้สามารถตัดเสียงรบกวนและบันทึกเสียงได้อย่างมีคุณภาพไม่งั้นอาจจะเกิดสิ่งเหล่านี้ตามมา ได้แก่
1. มีระบบตัดเสียงรบกวน (Noise Cancellation / Noise Reduction)
หัวใจสำคัญเลยครับ ไมค์ที่ดีควรมีระบบที่ช่วยแยกเสียงพูดของเราออกจากเสียงรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเสียงพัดลม เสียงรถ หรือเสียงคนคุยกัน
• ใช้ไมค์หลายตัว (Dual Mic) เพื่อแยกเสียงพูดจากเสียงแวดล้อม
• ใช้เทคโนโลยี หรือ การประมวลผลสัญญาณเสียง Digital Signal Processing (DSP) ช่วยลดเสียงพัดลม เสียงลม เสียงรถ หรือเสียงคนพูดรอบข้าง
2. รับเสียงเฉพาะทิศทาง (Directional Microphone)
เพื่อให้ไมค์โฟกัสแค่เสียงของเรา ไม่รับเสียงจากคนอื่นหรือสิ่งของรอบข้าง
• เลือกไมค์ที่มี Polar Pattern แบบ Cardioid หรือ Supercardioid ซึ่งเน้นรับเสียงจากด้านหน้า และลดเสียงด้านข้าง/หลัง
• เหมาะสำหรับไลฟ์ที่ต้องการโฟกัสเสียงพูดของผู้พูดหลักเท่านั้น
3. มีฟังก์ชันลดเสียงลมหรือเสียง “พ่นลม”
เคยไหมที่พูดแล้วมีเสียง เพื่อป้องกันเสียงเหล่านี้
• บางรุ่นมี แผ่นกรองเสียงที่เอาไว้ติดหน้าไมโครโฟน (Pop Filter) / อุปกรณ์ที่ใช้หุ้มไมโครโฟน (Windshield) ในตัว ป้องกันเสียง “ปุ ปั พะ” ที่เกิดจากลมปากหรือเสียงพัดลมโดนไมค์นั่นเอง
4. ปรับระดับ Gain หรือ Sensitivity
ช่วยให้เราปรับความดังของไมค์ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมได้
• ช่วยให้ไมค์สามารถรับเสียงได้ตามความดังที่ต้องการ
• ลดปัญหาเสียงแตก หรือรับเสียงเบาเกินไป
• เหมาะมากสำหรับคนไลฟ์ในสถานที่ที่ควบคุมเสียงไม่ได้
5. มีระบบป้องกันเสียง Overload หรือเสียง Peak
สำหรับคนที่ชอบพูดเสียงดัง ร้องเพลง หรือมีอารมณ์ร่วมในการไลฟ์
• สำหรับคนที่พูดเสียงดัง หรือร้องเพลงในไลฟ์
• บางรุ่นมีฟังก์ชัน Auto Gain Control หรือมี Limiter ในตัว ที่ทำหน้าที่ไม่ว่าเสียงที่คุณพูดจะเบาลง หรือดังขึ้น จะพยายามปรับให้ระดับเสียงที่บันทึกหรือส่งออกไปอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ดังเกินไปจนเสียงแตก (Overload) และไม่เบาเกินไปจนฟังไม่รู้เรื่อง
6. รองรับการเชื่อมต่อที่สะดวก
ไมค์ไลฟ์สดที่ดีควรจะพร้อมใช้ได้ทันที ไม่ยุ่งยากกับการต่อสาย
• ต่อเข้ามือถือได้ทันที (USB-C, Lightning)
• หรือเป็นไมค์ Wireless แบบเสียบแล้วใช้ได้เลย (Plug and Play)
7. มี Low Latency (สำหรับ Wireless Mic)
ถ้าเลือกไมค์ไร้สาย สิ่งที่ต้องเช็กคือ ความหน่วง หรือ Latency หาก ยิ่ง Latency ต่ำเท่าไหร่ยิ่งดี
• ทำให้เสียงตรงปาก พูดแล้วเสียงไม่ดีเลย์
• สำคัญมากสำหรับไลฟ์สดที่ต้องการความเป็นมืออาชีพ
ดังนั้น ไมค์ที่ดีสำหรับการไลฟ์สดจะต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ เพื่อให้สามารถบันทึกเสียงได้อย่างมีคุณภาพ ไร้เสียงรบกวน และมีความเป็นมืออาชีพ

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ FIFINE K688
ใครที่กำลังมองหาไมโครโฟนดีๆ สักตัวที่ให้เสียงคุณภาพระดับสตูดิโอ แต่ก็ยังใช้สะดวก จะต่อคอมฯ ก็ได้ จะต่อมิกเซอร์ก็ดี ต้องบอกเลยว่าเจ้า FIFINE K688 ตัวนี้คือตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะครับ! โดยเฉพาะคนที่มีสตูดิโอเล็กๆ หรืออยากจะทำพอดแคสต์/ไลฟ์สดที่บ้าน ไมค์ตัวนี้ตอบโจทย์สุดๆ
ไมโครโฟนไดนามิค FIFINE K688 ได้ให้คุณภาพเสียงที่ใสสะอาด โดดเด่นด้วยความทนทาน และความสามารถในการปรับเปลี่ยนได้ ไมโครโฟนไดนามิก XLR สำหรับ Podcast ที่มี SPL 130dB จะไม่บิดเบือนเสียงจากการบันทึกเสียง วิดีโอ หรือเพลงเพื่อรักษาความเป็นต้นฉบับ รูปแบบคาร์ดิออยด์ที่มีทิศทางค่อนข้างจะเกี่ยวข้องกับเสียงรบกวนรอบข้าง เช่น ฮาร์ดไดรฟ์หรือพัดลมคอมพิวเตอร์ ไมโครโฟนสำหรับบันทึกเสียงในสตูดิโอให้เสียงที่มีรายละเอียดดั้งเดิมโดยไม่ต้องประมวลผลเสียงรบกวนเพิ่มเติม
รูปแบบ | คาร์ดิออย |
การเชื่อมต่อเอาท์พุต | USB type-C (ปลายไมโครโฟน) ถึง type-A 2.0 (ปลายคอมพิวเตอร์)/XLR |
การใช้พลังงาน USB | แรงดันไฟฟ้า: 5±0.25 V กระแสไฟฟ้า: 86 mA |
ความลึกบิต/อัตราตัวอย่าง | 16 บิต/44.1k-48k เฮิร์ตซ์ |
การตอบสนองความถี่ | 70-15k เฮิรตซ์ |
อัตราส่วนเอส/เอ็น | >75 เดซิเบล |
สูงสุด | 130 เดซิเบล |
ความไว | -58±3dB |
ช่วงที่ปรับได้ | 0 ถึง +12 เดซิเบล |
น้ำหนัก | 1.0 กก |

ไมค์ไลฟ์สดตัดเสียงรบกวน เหมาะกับใคร?
1. แม่ค้าออนไลน์ / พ่อค้าไลฟ์สด
ถ้าคุณขายของผ่าน Facebook Live หรือ TikTok Shop และต้องพูดต่อเนื่องเป็นชั่วโมง ไมค์ที่มีระบบตัดเสียงรบกวนจะช่วยให้เสียงคุณชัดเจน ไม่โดนกลบด้วยเสียงแวดล้อม เช่น พัดลม รถ วิทยุ หรือเสียงคนรอบข้าง ทำให้ลูกค้าได้ยินเสียงคุณชัดเจน และ “อยากฟังต่อ”
2. คอนเทนต์ครีเอเตอร์มือใหม่
ไม่ว่าคุณจะทำคลิปรีวิวสินค้า, แชร์ประสบการณ์, หรือสอนทำอาหารผ่านมือถือ – เสียงคือหัวใจของความน่าสนใจ หากเสียงมี Noise หรือเสียงเบา คนจะเลื่อนผ่านอย่างรวดเร็ว
3. สายสตรีมเมอร์ / เกมเมอร์
แม้จะอยู่ในห้องเงียบ แต่เสียงคีย์บอร์ด พัดลม หรือแม้แต่เสียงรบกวนจากห้องข้าง ๆ ก็อาจแทรกเข้ามาได้ ไมค์ที่ตัดเสียงรบกวนจะช่วยให้เสียงพูดของคุณคมชัด ส่งตรงถึงคนดูโดยไม่สะดุด
4. นักสัมภาษณ์ / ยูทูบเบอร์
การอัดเสียงกลางแจ้ง หรือในพื้นที่ที่มีเสียงรบกวนสูง เช่น ตลาดนัด ร้านกาแฟ หรือริมถนน ไมค์แบบมีระบบตัดเสียงรบกวนจะช่วยให้คุณเก็บเสียงพูดได้คมชัด โดยไม่ต้องกลับมาเสียเวลาลบเสียงรบกวนภายหลัง
5. ครูออนไลน์ / วิทยากร / โค้ชสอนสด
หากคุณสอนออนไลน์ผ่าน Zoom, Google Meet หรือแพลตฟอร์มอื่น เสียงชัด ๆ ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจง่าย ไม่เสียสมาธิ และรู้สึกว่าคุณเป็นมืออาชีพ
6. สาย Vlog เดินทาง
ชอบถ่ายคลิปท่องเที่ยว เดินกลางเมือง ขึ้นรถไฟ เดินริมทะเล? การมีไมค์ที่ลดเสียงลม เสียงคน หรือเสียงรถ จะช่วยให้เสียงของคุณโดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
.
อุปกรณ์เสริมที่ควรมี เมื่อต้องใช้ไมค์ไลฟ์สดตัดเสียงรบกวน
1. ฟองน้ำคลุมไมค์ (Foam Cover / Windscreen)
- ลดเสียงลม เสียงหายใจแรง
- ป้องกันฝุ่นและละอองน้ำจากลมหายใจหรือพูดใกล้ไมค์
- ราคาไม่แพง แต่ช่วยให้เสียงนุ่มนวลขึ้น
เหมาะสำหรับ: ไมค์หนีบเสื้อ, ไมค์ไร้สาย, ไมค์ถือ
2. Deadcat / Wind Muff
- ลดเสียงลมแรงโดยเฉพาะเมื่อลุยถ่ายนอกสถานที่ เช่น ทะเล หรือกลางแจ้ง
- มักใช้คู่กับไมค์กล้องหรือไมค์ไร้สาย
- มีลักษณะเป็นขนฟูๆ เหมือนขนแมว
เหมาะสำหรับ: คนทำ Vlog เดินทาง ถ่ายคลิปนอกอาคาร
3. ขาตั้งไมค์ (Mic Stand / Boom Arm)
- วางไมค์ให้อยู่ในตำแหน่งเสียงดีที่สุด โดยไม่ต้องถือ
- ลดเสียงการสั่นสะเทือนบนโต๊ะ
- ช่วยให้โต๊ะไม่รก ใช้งานสะดวก
เหมาะสำหรับ: ไลฟ์สอนหนังสือ พอดแคสต์ หรือไลฟ์จากโต๊ะคอม
4. Pop Filter
- กรองเสียง “พ่นลม” เช่น พ, ฟ, ท ไม่ให้กระแทกเข้ามาในไมค์
- ช่วยให้เสียงพูดคมชัดขึ้นโดยไม่แตก
- มักใช้กับไมค์ตั้งโต๊ะหรือไมค์คอนเดนเซอร์
เหมาะสำหรับ: การอัดเสียงพูด หรือไลฟ์ใกล้ไมค์
5. Sound Card / Audio Interface
- แปลงสัญญาณเสียงแบบ XLR ให้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์
- ปรับแต่งเสียงได้ละเอียด เช่น เพิ่มเบส ลดเสียงรบกวน
- จำเป็นถ้าคุณใช้ไมค์ XLR หรือไมค์โปรเกรด
เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้งานระดับโปร หรือสาย Podcast / นักดนตรี
6. สายแปลง / อะแดปเตอร์
- สำหรับต่อไมค์เข้ากับมือถือ กล้อง หรือคอมพิวเตอร์
- เช่น สายแปลง USB-C, Lightning, TRS/TRRS
- ต้องเลือกให้เข้ากับอุปกรณ์ที่คุณใช้
เหมาะสำหรับ: มือถือ Android / iPhone / กล้อง DSLR
7. แบตเตอรี่สำรอง / Power Bank
- ไมค์ไร้สายหรือระบบที่มีแบตในตัว อาจต้องใช้พลังงานตลอดไลฟ์
- เพื่อไม่ให้เสียงหายกลางไลฟ์ ควรมีสำรองไว้เสมอ
จากที่กล่าวมา
ไมค์ไลฟ์สดตัดเสียงรบกวน เหมาะกับทุกคนที่ “ต้องการให้เสียงพูดของตัวเองชัดเจน และดูเป็นมืออาชีพ”
โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมาก เช่น ในบ้านที่มีเด็ก เสียงทีวี เสียงรถ หรือการทำคลิปนอกสถานที่หากคุณกำลังจะเริ่มต้นสร้างแบรนด์ตัวเอง หรือเริ่มขายของออนไลน์ “ไมค์ดี ๆ ที่ตัดเสียงรบกวนได้” คือการลงทุนที่คุ้มที่สุด
.
ท่านสามารถติดตามสินค้าอื่นๆได้ที่ www.advancedphotosystems.com หรือติดตามได้ที่แฟนเพจของเราได้ที่ www.facebook.com/advancedphotosystems