เคยสงสัยกันมั้ยครับ ว่ายูทูบเบอร์ หรือศิลปินที่ร้องเพลง Cover ลงในโซเชียล ทำไมถึงดึงดูดผู้คนให้เข้ามาฟัง หรือดูคลิปได้มากมาย จนทำให้เค้ากลายเป็นศิลปินขึ้นมาได้จริงๆ เหตุผลหลักๆก็คือ “มีเสียงที่ไพเพราะ” และแน่นอน การมีเสียงที่ไพเราะ เป็นเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้คนสนใจในเสียงที่ไพเราะของคุณ จึงทำให้ผู้ที่มีพรสวรรค์ หันมาเป็นยูทูบเบอร์สาย Cover เพลงกันมากขึ้น นอกจากการที่เพื่อนๆมีเสียงที่ไพเราะ ดึงดูดผู้ฟังได้ดีแล้ว จะต้องมีอุปกรณ์บันทึกเสียงที่ดี และมีคุณภาพ สมกับราคาด้วย และหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือไมโครโฟนนั่นเองครับ แต่จะรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าไมค์แบบไหนดีที่เราจะนำมาใช้บันทึกเสียงร้องของเพื่อนๆให้มีคุณภาพได้ วันนี้ผมจะมาบอกคุณสมบัติที่ไมค์สำหรับร้องเพลงควรมีนั้นมีอะไรบ้าง กับบทความ ” ไมค์ร้องเพลงที่นัก Cover เพลงเลือกใช้ ควรมีคุณสมบัติอย่างไร? “
ไมโครโฟนที่มีการตอบสนองความถี่ (Frequency Response)
การตอบสนองความถี่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับไมโครโฟน เพราะมันบ่งบอกว่าไมโครโฟนสามารถรับเสียงในช่วงความถี่ต่างๆ ได้ดีเพียงใด และส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพและลักษณะของเสียงที่บันทึกได้
ไมโครโฟนมีการตอบสนองความถี่ที่ “แบน” (Flat Frequency Response) นั่นหมายความว่ามันจะรับเสียงในช่วงความถี่ต่างๆ ได้อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่เน้นหรือลดทอนความถี่ใดความถี่หนึ่งเป็นพิเศษ ทำให้เสียงที่บันทึกได้มีความเป็นธรรมชาติและสมจริง ใกล้เคียงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการบันทึกเสียงร้องหรือเครื่องดนตรีที่ต้องการความเที่ยงตรงของเสียง
ไมไดนามิกที่ให้ความไวเสียงจากด้านหน้าแบบ Cardioid
Cardioid คือ รูปแบบการรับเสียงของไมโครโฟนที่มีลักษณะเป็นรูปหัวใจ (มาจากคำว่า “Cardio” ในภาษากรีกที่แปลว่า “หัวใจ”) ซึ่งหมายความว่าไมโครโฟนประเภทนี้จะมีความไวต่อเสียงที่มาจากด้านหน้ามากที่สุด และจะค่อยๆ ลดความไวในการรับเสียงจากด้านข้าง และแทบจะไม่รับเสียงที่มาจากด้านหลัง เป็นรูปแบบที่นิยมที่สุดสำหรับการร้องเพลง เพราะรับเสียงจากด้านหน้าเป็นหลักและลดเสียงรบกวนจากด้านข้างและด้านหลัง ทำให้เสียงร้องมีความชัดเจนและโดดเด่น เหมาะสำหรับการใช้งานบนเวทีและการบันทึกเสียงในสตูดิโอ

ไมโครโฟนไดนามิก Fifine K688 ให้การรับเสียงแบบ Cardioid
ระดับความดันเสียงสูงสุด (Maximum Sound Pressure Level หรือ SPL)
เป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับไมโครโฟนที่ใช้ในการร้องเพลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับแหล่งกำเนิดเสียงที่ดังมากๆ เช่น เสียงร้องที่ทรงพลัง หรือเสียงจากเครื่องดนตรีที่ดังใกล้ๆ ไมโครโฟน
ความสำคัญของ SPL ที่สูงสำหรับไมโครโฟนร้องเพลง
- ป้องกันการบิดเบือนของสัญญาณ (Distortion) : เมื่อคลื่นเสียงที่มีความดังสูงกระทบกับไดอะแฟรมของไมโครโฟน จะสร้างแรงดันไฟฟ้า หากระดับความดันเสียงสูงเกินกว่าที่ไมโครโฟนจะรับไหว วงจรภายในของไมโครโฟนจะไม่สามารถแปลงคลื่นเสียงเป็นสัญญาณไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง ทำให้เกิดการบิดเบือนของสัญญาณเสียงที่บันทึกได้ เสียงที่ได้ยินจะแตกพร่า ไม่คมชัด และฟังไม่สบาย โดยทั่วไปแล้ว ไมโครโฟนสำหรับร้องเพลงควรมีค่า SPL สูงสุดอย่างน้อย 130 dB SPL ขึ้นไป สำหรับการใช้ในห้องอัดเสียง
- รองรับช่วงไดนามิกของเสียงร้อง (Dynamic Range) : เสียงร้องเพลงมีการเปลี่ยนแปลงความดังอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เสียงกระซิบเบาๆ ไปจนถึงการตะเบ็งเสียงที่ดังมาก ไมโครโฟนที่มีค่า SPL สูงจะสามารถรองรับช่วงความแตกต่างของความดังเสียงเหล่านี้ได้โดยไม่เกิดการคลิปปิ้ง (Clipping) หรือการบิดเบือน ทำให้สามารถบันทึกรายละเอียดของเสียงร้องได้อย่างครบถ้วน
- ความทนทานและความน่าเชื่อถือ : ไมโครโฟนที่ถูกออกแบบมาให้มีค่า SPL สูง มักจะมีความทนทานต่อระดับเสียงที่ดังมากๆ ได้ดีกว่า ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีความน่าเชื่อถือในการใช้งานจริงบนเวทีหรือในสตูดิโอ
- ความยืดหยุ่นในการใช้งาน : ไมโครโฟนที่มี SPL สูงสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงในคอนเสิร์ตที่มีเสียงดัง การบันทึกเสียงเครื่องดนตรีที่ดังใกล้เคียง หรือแม้แต่การใช้งานในสตูดิโอที่มีการปรับระดับเสียงที่หลากหลาย

Fifine K688 มีค่า S/N สูงถึง 130 dB ซึ่งเพียงพอกับใช้ในการบันทึกเสียงร้อง
อัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวน (Signal-to-Noise Ratio หรือ SNR)
มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อไมค์ร้องเพลงที่ใช้อัดเสียงเข้าคอมพิวเตอร์ เนื่องจาก ค่า SNR ที่สูงหมายถึงระดับเสียงร้อง (สัญญาณ) มีความดังกว่าระดับเสียงรบกวน (Noise) ที่เกิดจากตัวไมโครโฟนเองหรือสภาพแวดล้อมรอบข้างมาก ทำให้เสียงร้องที่บันทึกได้มีความใส สะอาด และคมชัด ปราศจากเสียงซ่า ฮัม หรือเสียงที่ไม่พึงประสงค์อื่น ๆ เมื่อมีเสียงรบกวนน้อย เสียงร้องที่มีรายละเอียดเล็กน้อย เช่น ลมหายใจ หรือเทคนิคการร้องต่างๆ จะถูกบันทึกได้อย่างชัดเจน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและเป็นธรรมชาติมากขึ้น หากเสียงร้องที่บันทึกมามี SNR ที่ดี จะทำให้การปรับแต่งเสียง (Mixing) ในขั้นตอนหลังการบันทึกทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาและความพยายามในการลดเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพโดยรวมของเพลง ซึ่งค่า SNR สูง (เช่น 70dB ขึ้นไป) เสียงร้องจะเด่นชัด ปราศจากเสียงรบกวนที่น่ารำคาญ ทำให้ได้ไฟล์เสียงที่มีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับการทำเพลงอย่างจริงจัง

ไมโครโฟน K688 มีค่า S/N Ratio >80dB มีคุณสมบัติที่ตรงต่อการนำมาบันทึกเสียงร้อง
ไมค์ร้องเพลงที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ XLR
การเชื่อมต่อแบบ XLR เป็นแบบ Balanced Audio ซึ่งหมายถึงการส่งสัญญาณเสียงผ่านสายเคเบิลที่มีตัวนำสามเส้น ได้แก่ สัญญาณบวก สัญญาณลบ และกราวด์ การออกแบบนี้ช่วยในการลดสัญญาณรบกวน (Noise) และสัญญาณแทรกสอด (Interference) ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการส่งสัญญาณ ทำให้เสียงที่บันทึกมีความคมชัด สะอาด

สาย XLR การเชื่อมต่อที่มีสัญญาณบวก ลบ และกราวด์ ช่วยในการลดสัญญาณรบกวน
เชื่อมต่อกับออดิโออินเตอร์เฟสเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น
ออดิโออินเตอร์เฟสส่วนใหญ่มีปรีแอมป์ในตัว ซึ่งทำหน้าที่ขยายสัญญาณเสียงที่อ่อนจากไมโครโฟนให้มีระดับที่เหมาะสมสำหรับการบันทึก ปรีแอมป์คุณภาพดีจะช่วยให้เสียงร้องมีความคมชัด มีรายละเอียด และมีสัญญาณรบกวนต่ำ ซึ่งแตกต่างจากปรีแอมป์ราคาถูกที่มักพบในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ออดิโออินเตอร์เฟสจะแปลงสัญญาณเสียงอนาล็อกจากไมโครโฟนให้เป็นสัญญาณดิจิตอลที่คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลได้ ชิปแปลงสัญญาณคุณภาพสูงในออดิโออินเตอร์เฟสจะให้ความแม่นยำของเสียงที่ดีกว่า ลดการสูญเสียรายละเอียด และให้ไดนามิกเรนจ์ที่กว้างกว่า

ออดิโออินเตอร์เฟส Fifine Ampli 3 มีคุณสมบัติที่จะสามารถทำให้เสียงที่บันทึกผ่านไมค์โครโฟนชัดขึ้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือตัวกลางที่เชื่อมต่อระหว่างไมโครโฟนเข้ากับคอมพิวเตอร์นั่นเอง
สรุป
จากบทความที่ผมได้เขียนขึ้นมา เพื่อนๆรู้แล้วใช่ไหมครับ ว่าไมโครโฟนสำหรับร้องเพลงที่ดีนั้นควรมีอะไรบ้าง นั่นก็คือการรองรับความถี่ที่ดี ป้องกันเสียงรบกวนได้ดี มีค่าความดันเสียงที่เหมาะสม และมีการเชื่อมต่อแบบ XLR ซึ่งหากเพื่อนๆมีไมโครโฟนที่ตรงกับคุณสมบัติที่ผมได้กล่าวมา เพื่อนๆก็สามารถเริ่ม Cover เพลงได้เลย แต่ถ้าหากไม่มี เราก็มีรุ่นแนะนำ นั่นก็คือ Fifine K688 ทำไมผมถึงต้องแนะนำรุ่นนี้นั่นเหรอ ก็เพราะจากข้อมูลที่ผมได้ให้เพื่อนๆในบทความนี้ไป ไมโครโฟนไดนามิก K688 เป็นรุ่นที่มีคุณสมบัติตรงกับที่ผมกล่าวมาทุกข้อ แต่นั่นล่ะครับ ผมแนะนำอุปกรณ์เป็นทางเลือกเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คงเป็นอยู่ที่พรสวรรค์ในการร้องเพลงของเพื่อนๆเองว่าจะทำมันออกมาได้ดีขนาดไหน สุดท้ายแล้วขอให้เพื่อนๆมีความสุขกับการ Cover เพลงครับ ส่วนไมโครโฟน หรือ ออดิโออินเตอร์เฟส ที่ปรากฏในบทความ สามารถสอบถามรายละเอียดได้เลยครับ ที่ https://www.facebook.com/advancedphotosystems เรายินดีบริการด้วยใจครับ