สายคอนเท้นต์ถ่ายงานนอกสถานที่ งานสัมภาษนอกสถานที่ เพื่อนๆเคยไหมครับ ที่ถ่ายคลิป ถ่ายวิดีโอโดยใช้ไมค์กล้องแล้วเสียงที่ออกมาใช้งานไม่ได้ เสียงซ่า เสียงรบกวนที่น่ารำคาญซะเหลือเกิน ก็ต้องถ่ายคลิปใหม่เพื่อให้ได้เสียงที่ตรงใจเรา จะดีกว่าไหมที่เราจะมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยในการอัดเสียงพูด เสียงสนทนาที่มีตวามคมชัด นอกจากจะทำให้เรามั่นใจในการพูดแล้ว เสียงที่คมชัดยังทำให้ดึงดูดผู้ชมเพื่อให้อยู่ดูคลิปเราไปนานๆอีกด้วย วันนี้ผมจะมาแนะนำ 5 ไมโครโฟนไร้สายที่คุณภาพบอกเลยว่าคุ้มเกินราคาแน่นอน มาเริ่มอ่านกันเลยครับ กับบทความ ” 3 ไมโครโฟนไร้สาย (Wireless Microphone) รุ่นไหนน่าซื้อหามาใช้บ้าง ในปี 2025 “
1. ไมค์ไร้สาย amaran Tag

ไมโครโฟนรุ่นแรก ของ amaran ที่เพิ่งจะเปิดตัวไม่นาน และแน่นอนว่าถ้าเรียกชื่อแบรนด์แล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ amaran กัน เพราะเป็นแบรนด์ที่ออกแบบไฟสตูดิโอมาหลากหลายรุ่น และมีชื่อเสียงทางด้านภาพยนตร์มายาวนาน ซึ่งมั่นใจได้ในด้านคุณภาพของไมโครโฟนไร้สายอย่าง amaran TAG แน่นอน วันนี้ผมจะมาบอกข้อดีของไมค์ตัวนี้กันครับ
ไมโครโฟน ที่มีคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi
- 48kHz/24-bit Audio มอบเสียงที่คมชัด ละเอียด สมจริง ให้คุณได้ยินทุกรายละเอียดราวกับอยู่ในสถานการณ์จริง
- Omnidirectional (360°) เก็บเสียงได้รอบทิศทาง ไม่พลาดทุกบทสนทนา เหมาะสำหรับการสัมภาษณ์ หรือการบันทึกบรรยากาศรอบข้าง
ไมค์ไร้สาย ที่ใช้งานง่าย รองรับทุกอุปกรณ์
- Plug-and-Play ไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน เพียงเสียบก็พร้อมใช้งานทันที
- Universal Compatibility รองรับทั้งโทรศัพท์มือถือ (iOS & Android ด้วยพอร์ต Lightning และ USB-C), แล็ปท็อป, แท็บเล็ต และกล้องถ่ายรูป ทำให้คุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่คุณมีได้อย่างไร้กังวล
ไมค์ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ พร้อมปรับระดับเสียงได้:
- Voice Isolation Control 3 ระดับ เลือกปรับการลดเสียงรบกวนได้ถึง 3 ระดับ (อ่อน, กลาง, แรง) เพื่อให้เสียงพูดของคุณคมชัด แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
- Gain Control 3 ระดับ ปรับระดับความดังของเสียงได้อย่างละเอียด เพื่อให้ได้เสียงที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ไม่ว่าจะกระซิบหรือตะโกน ก็ชัดเจนทุกถ้อยคำ
อิสระไร้สาย ระยะไกลสุดขีด
- ระยะส่งสัญญาณสูงสุด 300 เมตร (Line of Sight) บันทึกเสียงได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกังวลเรื่องระยะห่าง หรือการเชื่อมต่อที่ขาดหาย เหมาะกับการถ่ายทำที่ต้องเคลื่อนไหว
- เทคโนโลยีป้องกันสัญญาณรบกวน (Anti-Interference) สัญญาณเสถียร ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานที่ที่มีคลื่นสัญญาณเยอะแค่ไหน
ไมค์ติดคอเสื้อ แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนาน
- เครื่องส่งสัญญาณใช้งานได้สูงสุด 11 ชั่วโมง หมดกังวลเรื่องแบตหมดกลางคัน สามารถบันทึกคอนเทนต์ได้อย่างต่อเนื่องตลอดวัน
- เคสชาร์จพกพา ชาร์จได้ถึง 2 รอบ เพิ่มอายุการใช้งานรวมกว่า 30 ชั่วโมง ให้คุณพร้อมสร้างสรรค์ได้ทุกที่ทุกเวลา
ไมค์ Wireless ที่มีฟังก์ชันเสริมเพิ่มความสะดวกสบาย
- Dual Wireless Microphone System มาพร้อมตัวส่ง 2 ตัว และตัวรับ 1 ตัว เหมาะสำหรับการสัมภาษณ์คู่ หรือการบันทึกเสียงจาก 2 แหล่งพร้อมกัน
- One-Click Recording สามารถกดบันทึกวิดีโอหรือถ่ายภาพผ่านตัวส่งสัญญาณได้โดยตรง (สำหรับโทรศัพท์มือถือ)
- Real-time Monitoring ตรวจสอบเสียงได้แบบเรียลไทม์ผ่านตัวรับ เพื่อให้มั่นใจว่าเสียงที่บันทึกมีคุณภาพตามที่คุณต้องการ
- Magnetic Clip ยึดติดกับเสื้อผ้าได้อย่างง่ายดายด้วยคลิปแม่เหล็ก
ราคา : 3,490.-
รายละเอียด คลิก
2. ไมโครโฟนไร้สาย FIFINE M6

Fifine M6 เป็นไมโครโฟนไร้สายขนาดเล็กกะทัดรัดที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นัก Vloggers หรือใครก็ตามที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นสำหรับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ของคุณในราคาสบายกระเป๋าครับ มาดูกันครับว่า M6 มีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ไมค์หนับคอเสื้อ คุณภาพเสียงคมชัด (High-Quality Sound)
- Sampling Rate 16-bit, 48kHz คุณภาพเสียงที่ได้มีความละเอียดสูง ทำให้เสียงพูดของคุณคมชัด รายละเอียดครบถ้วน เหมาะสำหรับการอัดเสียงพูด, Vlog, สัมภาษณ์ หรือ Live Stream.
- รูปแบบการรับเสียงแบบ Omnidirectional (รับเสียงรอบทิศทาง) M6 สามารถรับเสียงได้จากทุกทิศทาง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ต้องการเก็บเสียงบรรยากาศรอบข้าง หรือเมื่อคุณไม่ได้หันหน้าตรงเข้าหาไมค์ตลอดเวลา เช่น การสัมภาษณ์แบบกลุ่ม
- มีระบบลดเสียงรบกวน (Noise Reduction) และ Windscreen ในตัว ช่วยลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม เช่น เสียงลม หรือเสียงรถยนต์ ทำให้ได้เสียงที่ใสสะอาดมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อบันทึกเสียงกลางแจ้ง
ไมค์ Wireless ใช้งานง่าย Plug & Play (เชื่อมต่อปุ๊บ ใช้ได้ปั๊บ)
- เทคโนโลยีไร้สาย 2.4GHz ให้การเชื่อมต่อที่เสถียรและรวดเร็ว ไม่ต้องจับคู่ให้ยุ่งยาก เพียงแค่เสียบตัวรับสัญญาณ (Receiver) เข้ากับพอร์ต USB Type-C ของอุปกรณ์ของคุณ แล้วเปิดไมค์ ก็พร้อมใช้งานได้ทันที
- พอร์ต USB Type-C เข้ากันได้กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ที่ใช้พอร์ต Type-C ทำให้สะดวกสบายในการใช้งานกับอุปกรณ์หลากหลาย
อิสระในการเคลื่อนไหว (Wireless Freedom)
- ระยะการทำงานที่กว้าง M6 สามารถใช้งานได้ในระยะสูงสุดถึง 20 เมตร (ประมาณ 65 ฟุต) ในอาคาร และ 15 เมตร (ประมาณ 50 ฟุต) กลางแจ้ง ทำให้คุณมีอิสระในการเคลื่อนไหวขณะบันทึกวิดีโอ Live Stream หรือบรรยาย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสายเกะกะ
- ไมโครโฟนไร้สาย น้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด ตัวไมค์มีขนาดพอๆ กับลิปสติก พกพาง่าย ใส่กระเป๋าเสื้อได้สบาย และมีคลิปหนีบที่หมุนได้ 360 องศา ทำให้สามารถหนีบได้หลายตำแหน่งตามความเหมาะสม
ไมค์อัดเสียง ฟังก์ชันครบครัน
- ปุ่ม Mute ในตัว สามารถปิดเสียงไมค์ได้ทันทีเพียงกดปุ่ม โดยไม่ต้องถอดไมค์ออก ทำให้สะดวกเมื่อต้องการหยุดพูดชั่วคราว
- ระบบตรวจสอบเสียงแบบ Real-time (Real-time Monitoring) สามารถเสียบหูฟัง Type-C เข้ากับตัวรับสัญญาณหรือตัวไมค์เพื่อฟังเสียงของคุณในขณะที่กำลังบันทึกได้ทันที ช่วยให้มั่นใจว่าเสียงที่บันทึกมีคุณภาพตามที่ต้องการ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน แบตเตอรี่ในตัวไมค์สามารถใช้งานได้นานประมาณ 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียง 90 นาที และตัวรับสัญญาณยังสามารถใช้พลังงานจากอุปกรณ์ของคุณ หรือชาร์จผ่าน USB ได้ด้วย
ราคา : 990.-
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
3. ไมโครโฟน Wireless 7Ryms iRay DW10

สำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์, Vlogger, Live Streamer, หรือใครก็ตามที่ต้องการเสียงคุณภาพเยี่ยมแบบไร้สายในราคาที่จับต้องได้ 7Ryms iRay DW10 คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม! ไมค์ไร้สายขนาดกะทัดรัดนี้อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เด่นที่ทำให้การบันทึกเสียงของคุณเป็นเรื่องง่ายและได้คุณภาพระดับมืออาชีพ
ไมค์ตัดเสียงรบกวน คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอในราคาเข้าถึงง่าย
- บันทึกเสียง 48kHz/16bit ให้เสียงที่คมชัด รายละเอียดครบถ้วน คุณภาพระดับ CD Lossless ไม่แพ้ไมค์ใหญ่ๆ
- AI Denoise Technology (ลดเสียงรบกวนอัจฉริยะ) ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ทำให้เสียงพูดของคุณโดดเด่นและคมชัดแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
- ชิป DSP ในตัวพร้อม Reverb Effect เพิ่มมิติให้กับเสียงของคุณด้วยเอฟเฟกต์ Reverb (เสียงสะท้อน) ที่ปรับได้ ช่วยให้เสียงดูเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวามากขึ้น
ไมโครโฟนไร้สาย อเนกประสงค์ ใช้งานง่าย ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม
- รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย มี Output ทั้งแบบ USB-C Digital และ 3.5mm TRRS/TRS ทำให้ใช้งานได้กับกล้อง, สมาร์ทโฟน (ทั้ง iOS และ Android), แท็บเล็ต, และคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร้รอยต่อ
- โหมด Mono/Stereo เลือกบันทึกเสียงแบบโมโนหรือสเตอริโอได้ตามความต้องการในการใช้งาน
- ควบคุม Gain และ Mute ได้ง่าย มีปุ่มควบคุม Gain (ความดังเสียง) แบบไร้ขั้น และปุ่ม Mute (ปิดเสียง) ที่ใช้งานสะดวก
- Plug-and-Play ใช้งานง่าย ไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน เพียงเสียบก็พร้อมใช้งานได้ทันที
ฟีเจอร์อัจฉริยะเพื่อการทำงานที่เหนือกว่า
- Duplex Transmission (การส่งข้อมูลแบบสองทาง) และ Two-way Monitoring คุณสามารถสื่อสารและมอนิเตอร์เสียงได้ทั้งสองทาง ทำให้การสัมภาษณ์หรือการทำคอนเทนต์ร่วมกันเป็นไปได้อย่างราบรื่น
- Bluetooth 5.3 ในตัว รองรับการ Input เสียงผ่าน Bluetooth ทำให้คุณสามารถเล่นเพลงประกอบหรือเสียงอื่นๆ ไปพร้อมกับการบันทึกเสียงจากไมค์ได้อย่างง่ายดาย
- Low Latency (ความหน่วงต่ำ) มีความหน่วงของเสียงน้อยกว่า 20ms ทำให้เสียงและภาพตรงกัน ไม่ดีเลย์
ไมค์ไลฟ์สด นอกสถานที่ พกพาสะดวก ใช้งานได้ยาวนาน
- ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ตัวไมค์และตัวรับมีขนาดเล็กมาก พกพาสะดวก ไม่เป็นภาระในการใช้งาน
- เคสชาร์จในตัว (Rechargeable Storage Case) มาพร้อมเคสที่ทำหน้าที่เป็น Power Bank ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับไมค์และตัวรับได้ในตัว ทำให้ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 15 ชั่วโมง (เมื่อรวมกับการชาร์จจากเคส)
- ชาร์จไปใช้งานไปได้ ตัวรับสัญญาณสามารถชาร์จไปพร้อมกับการใช้งานได้ผ่านพอร์ต USB-C
ดีไซน์สวยงามและแข็งแรง
- มีให้เลือกหลายสี เช่น ดำ ขาว ม่วง ชมพู ทำให้ดูสวยงามและทันสมัย
- แม้จะให้ความรู้สึกเบา แต่ก็มีโครงสร้างที่ทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ราคา : 3,890.-
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับไมโครโฟนไร้สายทั้ง 3 ตัว อยากบอกว่าผมได้ลองมาหมดแล้วทุกตัวครับ ทั้ง 3 ตัวคุณสมบัติบางอย่างก็ต่างกันอย่างชัดเจน อยู่ที่ลักษณะการใช้งานของแต่ละคนเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการใช้งานลุยๆ นอกสถานที่ ทั้ง 3 ตัวก็ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวเลย และถ้าใครสนใจ หรืออยากหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็เข้ามาที่เว็บ https://advancedphotosystems.com/ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยครับ หรือจะสอบถามรายละเอียดแบบลึกๆ ไม่เข้าใจตรงไหน ก็อินบ็อคซ์มาหาเราได้ที่ https://www.facebook.com/advancedphotosystems เราพร้อมยินดีให้คำปรึกษาทุกท่านครับผม