มี Notebook แบบไหนกันอยู่บ้างครับ พกมันไปทำงานทุกวันหรือเปล่า? ในช่วงที่พกอุปกรณ์ที่เป็นเหมือนคู่หูไปทำงานนั้น หลายๆ คนอาจจะต้องเจอกับอะไรที่ไม่คาดฝันระหว่างการเดินทาง นี่ยังไม่รวมถึงอาการปวดบ่าปวดหลัง ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะยาวอีกด้วย
และเพื่อป้องกันเหตุการณ์อันไม่พึงใจทั้งหลายที่จะเกิดกับทั้งตัวเราและ Notebook ของเรา บทความนี้ ผมจะขอนำเสนอ “5 วิธีเลือกกระเป๋า Notebook แบบสะพายหลังให้เหมาะกับการใช้งาน” สำหรับทุกๆ คนกันครับ
1. ขนาด Notebook กับช่องใส่ Notebook ในกระเป๋าต้องเหมาะสมกัน
แม้ว่ากระเป๋าที่เราเจอจะทำให้เรา “ใจเต้นตึกตัก” มากขนาดไหน แต่อะไรที่มันไม่ใช่ของเรา จะฝืนขนาดไหนมันก็ไม่ใช่ของเราครับ จะพยายามมากเท่าไหร่ สุดท้ายมันก็ต้องแยกจากกันไปอยู่ดี
ก่อนจะไปหากระดาษทิชชูมาซับน้ำตา กลับมาฟังผมอธิบายข้อแรกให้จบก่อนครับ
ก่อนที่เราจะทำการเลือกกระเป๋านั้น เราจำเป็นจะต้องรู้ขนาดที่แท้จริงของ Notebook ของเราก่อนครับ บางครั้งการรู้แค่ขนาดจอ อาจจะไม่ทำให้รู้ถึงขนาดที่แท้จริง เพราะว่าขนาดของหน้าจอเป็นเพียงการบอกความกว้างและความยาวเท่านั้น แต่ไม่ได้บอกถึงความหนาของตัว Notebook ของเราด้วย
เช่นเดียวกันกับที่ Notebook บางตัว ขอบภาพจะบาง บางตัว ขอบภาพจะหนา ก็จะทำให้ขนาดกว้างยาวที่แท้จริงเปลี่ยนไปด้วย
เมื่อเราได้ขนาดที่แท้จริงของ Notebook เราแล้ว จึงมาดูขนาดของช่องใส่ในกระเป๋ากันอีกทีครับ
ในภาพตัวอย่างนี้ ผมนำกระเป๋า Lowepro Rigdeline BP250 AW มาเป็นแบบ ซึ่งจะเห็นได้ว่า สเปคของช่องใส่ Notebook สำหรับกระเป๋าใบนี้คือ 25 x 4 x 35 เซนติเมตร โดยเค้ามีระบุไว้ด้วยว่า สามารถใส่ Notebook ได้ถีงขนาด 15 นิ้ว และผมเตรียม Notebook ขนาดหน้าจอ 15 นิ้วมาสองตัว
ทั้งสองตัวเป็น Notebook ของ Acer ซึ่งมีขนาดหน้าจอที่เท่ากัน คือ Acer Nitro และ Acer Swift แต่จะสังเกตได้ว่าขนาดนั้นมีความแตกต่างกันค่อนข้างมากทีเดียวครับ
เมื่อพับหน้าจอแล้วนำไปวางทาบกัน ก็จะสามารถเห็นความแตกต่างกันได้ง่ายขึ้น ผมลองวัดความยาวเทียบกันดูแล้ว Acer Nitro นั้นจะมีความยาวอยู่ที่ 39 เซนติเมตร ส่วน Acer Swift นั้นจะมีความยาวอยู่ที่ 34 เซนติเมตรครับ ฉะนั้นเมื่อมองกันที่ความยาวแล้ว Lowepro Ridgeline ที่นำมา มีความยาวช่องใส่ Notebook เพียง 35 เซนติเมตรเท่านั้น ก็ดูจะเริ่มไม่เหมาะกับ Acer Nitro แล้ว
อีกเรื่องคือความหนาของตัว Notebook ของเราครับ ที่จะช่วยให้เราเลือกกระเป๋า Notebook ให้เหมาะได้มากขึ้น ถ้าช่องของเราไม่กว้างพอที่แล้วล่ะก็ เมื่อเรานำ Notebook ของเราไปใส่ มันจะกลายเป็นแบบนี้ครับ
ช่องจะมีความตึงมาก และปิดได้ไม่สนิท เวลาที่จะหยิบออกมาก็ทำได้ยาก หากออกแรงดึงก็อาจจะมีโอกาสทำตกหล่นได้ง่ายๆ นั่นเองครับ กลับกัน ถ้าหากว่าช่องใส่มีช่องว่างมากพอ เราก็จะสามารถหยิบออกมาได้สะดวก
เมื่อลองใส่ Acer Swift ที่ขนาดเล็กและบางกว่าเข้าไป จะเห็นว่าใส่ได้พอดี ไม่มีขอบเลยออกมาเลย
ข้อแรกนี้แม้ว่าจะยาวสักหน่อย แต่น่าจะทำให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้นว่า ทำไมเราไม่สามารถนำแค่ขนาดหน้าจอของ Notebook มาใช้ในการช่วยเลือกกระเป๋าให้เราได้ ทางที่ดีที่สุด เราควรจะรู้ขนาดความกว้างยาว และความหนาก่อน จากนั้นจึงนำมาเทียบกับช่องใส่ Notebook ในกระเป๋าครับ
เมื่ออยู่ร่วมกันได้แบบไม่ฝืน โอกาสที่เราจะร่วมทางกันต่อไปในอนาคต ก็ย่อมมีมากขึ้นแล้วล่ะครับ
2. หยิบแบบไหนสะดวกในการใช้งานมากกว่ากัน
อะไรที่หยิบจับสะดวก ย่อมทำให้เรารู้สึกสบายในการใช้มันได้มากกว่า รูปแบบการหยิบ Notebook ออกจากกระเป๋า ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็เป็นอะไรที่ช่วยให้เราเลือกกระเป๋าได้เหมือนกัน
ถ้าประตูบ้านที่เราอยู่ร่วมกันเข้าออกได้ไม่สะดวก วันหนึ่งอาจจะกลายเป็นเรื่องให้เราทะเลาะกันก็ได้นะ
กระเป๋าสำหรับใช้พกพา Notebook นั้น ส่วนมากแล้วจะมีรูปแบบช่องใส่ Notebook อยู่แค่ 2 ประเภทครับ
ช่องใส่จากด้านบน
รูปแบบนี้เป็นแบบที่เห็นได้เยอะที่สุดครับ เรียกว่าเป็นทรงยอดฮิตก็ได้ ลักษณะแบบนี้เมื่อจะดึง Notebook ออกมาเราอาจะต้องตั้งไว้บนโต๊ะหรือวางราบไปก่อน จึงจะดึงออกมาได้สะดวก สำหรับคนที่ตัวเล็กแต่พก Notebook จอใหญ่ ขนาดของกระเป๋าก็จะใหญ่ไปด้วย
กระเป๋าแบบนี้ มีทั้งช่องแบบแยกและแบบรวมกันอยู่ภายในตัวกระเป๋าครับ หากว่าไม่ได้เก็บของอะไรมากมาย แบบรวมกันช่องเดียวกับช่องเก็บของอื่นๆ ก็สะดวกดี แต่หากว่ามีของเยอะ ช่องที่แยกออกมาอยู่ด้านนอก น่าจะสะดวกกว่า
กระเป๋า Notebook ที่มีช่องอยู่ด้านบนนี้จะมีรูปแบบให้เลือกเยอะมาก แต่หากต้องวางนอนเวลาที่หยิบ Notebook ออกมา อาจจะโดนน้ำหนักของที่เราใส่ไว้ในกระเป๋ากดทับได้บ่อยๆ ครับ
ช่องใส่จากด้านข้าง
กระเป๋าสะพายหลังสำหรับใส่ Notebook นั้นบางรุ่นก็จะมีช่องเอาไว้ที่ด้านข้างสำหรับใส่ Notebook ครับ การที่มีช่องแบบนี้ จะทำให้เราดึง Notebook ออกมาจากด้านข้างได้ง่ายสำหรับ Notebook ที่มีน้ำหนักไม่มาก
ช่องแบบนี้มักจะแยกออกจากช่องเก็บของหลัก ทำให้ Notebook ของเราไม่ปนกับของอื่นๆ เวลาหยิบก็สามารถหยิบจากสันออกมาได้ แต่ถ้าเผลอลืมปิด แบบนี้จะมีโอกาสหล่นได้มากกว่าช่องใส่ที่อยู่ด้านบนครับ
3. การป้องกันการกระแทกที่ดี
Notebook ของแต่ละคนราคาเท่าไหร่ครับ ส่วนมากแล้วสำหรับ Notebook ที่ขนาด 13 นิ้ว อย่างน้อยๆ ก็จะต้องมีหมื่นกลางๆ ขึ้นไป สำหรับคนที่ทำงานจริงจังมากขึ้นสเปคก็สูงขึ้น ราคาก็ขยับขึ้นไปอีก หรือแม้จะสาวก Apple เช่น ผมที่พก Macbook Pro ก็ด้วย
ลองมาจินตนาการตามเหตุการณ์ “สมมุติ” ของผมกันดูหน่อยนะครับ
ผมพึ่งกลับถึงบ้าน วางกระเป๋าของผมไว้ที่โวฟา ตรงหน้าผมนั้นคุณภรรยาผมกำลังนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ไม่ทักไม่ทาย ถามว่ามีอะไรก็บอกว่าไม่มีอะไร สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการเหวี่ยงของนู่นนี่ไปทั่วบริเวณ แน่นอนว่ากระเป๋าของผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
หากว่าอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน Notebook ที่อยู่ในกระเป๋าของเรานั้น จะยังมีสภาพที่ดีอยู่ไหมครับ
เนื่องจากว่าเหตุการณ์ “สมมุติ” ของผม คงจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ และคงจะไม่เกิดขึ้นกับทุกคน ดังนั้น อาจจะแค่คิดดูว่า หากกระเป๋าเราหล่นจากโต๊ะหรือเก้าอี้ มันจะสามารถป้องกันแรงกระแทกไม่ให้เข้าถึง Notebook ได้มากแค่ไหนก็พอครับ
ตัวอย่างเช่น ในการะเป๋า Lowepro จะมีเทคโนโลยีพิเศษที่ชื่อว่า CradleFit™ อยู่ ซึ่งในรายละเอียดบอกไว้ว่า ช่องที่มีสัญลักษณ์รูป Notebook หรือ Tablet เมื่อเรานำอุปกรณ์มาใส่ในนี้ จะช่วยเพิ่มความป้องกันให้กันอุปกรณ์เป็นพิเศษ ช่วยให้เราเบาใจในเรื่องแรงกระแทกที่อาจะเข้ามาสู่ Notebook ของเรากรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันไปได้ส่วนหนึ่งครับ
ใครสนใจอ่าน Innovative Technology ที่มีอยู่ในกระเป๋า Lowepro คลิกตามไปดูกันได้ที่นี่เลยครับ
4. ใส่ของเยอะแค่ไหน
ก่อนจะตัดสินใจ เราอาจจะต้องวางแผนเผื่อไว้สำหรับในอนาคตก่อนครับว่า เราจะมีของอะไรใส่ลงในกระเป๋าบ้าง อย่าลืมว่าความจุของกระเป๋าทุกใบนั้นมีจำกัด เมื่อซื้อไปแล้ว ควรจะใส่อุปกรณ์ได้ครบทุกการใช้งานของเรา
นอกเหนือจากสายชาร์จและตัวแปลงอื่นๆ ของ Notebook เราอาจจะมีแฟ้มเอกสาร สมุดจดโน็ต ปากกา iPad แว่นตา ชุดสำหรับเปลี่ยนตอนไปฟิตเนส และเหลือช่องว่างเอาไว้นิดหน่อยสำหรับใส่เครื่องสำอางค์จาก EVEANDBOY ที่คุณภรรยาฝากซื้อ แต่ไม่กล้าถืออย่างโจ่งแจ้งขึ้นรถไฟฟ้า
ถ้ามันตอบโจทย์ของที่เราจะพกพาไปได้ กระเป๋าใบนี้ก็คุ้มค่ามากขึ้นที่จะซื้อเข้าไปอีกครับ
5. สะพายได้สบายหรือเปล่า
เมื่อเลือกกระเป๋าสะพายหลัง ผมพอจะคาดเดาได้ว่า เพื่อนๆ อาจจะต้องเป็นคนที่ต้องเอาอุปกรณ์ทั้งหมด เดินทางไปด้วยตลอดเวลา และอาจจะเป็นเวลานานๆ เพราะฉะนั้นแล้ว หากว่าเราเลือกกระเป๋า Notebook ที่สะพายแล้วไม่สบาย เดินไปเดินมาแล้วปวดหลังปวดไหล่
แม้ว่ากระเป๋าใบนั้นจะเคยดีกับเรามามากแค่ไหน จะมีความทรงจำร่วมกันมากมายก็ตาม ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องแยกทางกันไปแล้วล่ะครับ
ถ้ามีโอกาส เราควรนำอุปกรณ์ทุกอย่างรวมถึง Notebook ของเรา ไปใส่ในกระเป๋าใบที่เราเลอืกไว้ แล้วลองสะพายดูว่า เมื่อสะพายแล้วสามารถขยับตัวได้สะดวกหรือเปล่า หรืออาจจะดูจากเกณฑ์ด้านล่างนี้ก็ได้ครับ
- ไม่ทำให้รั้งตัวไปข้างหลัง (อาจทำให้ปวดเอวเวลาสะพายนานๆ)
- ไม่ทำให้บีบไหล่เข้าหากัน (อาจทำให้ปวดต้นคอ)
- เมื่อสะพายแล้ว กระเป๋าควรยาวเกือบถึงสะโพก (ลดภาระการรับน้ำหนักของไหล่)
- สายสะพายมีความกว้างมากพอที่จะกระจายน้ำหนักกระเป๋าลงบนพื้นที่ของบ่า
- ส่วนของกระเป๋าที่ติดกับหลัง ควรระบายอากาศได้ดี
- ใส่ของแล้ว กระเป๋าไม่ย้วย ไม่ยาน กระชับกับตัว
หากว่าลองสะพายแล้วทุกอย่างพอดีกับเรา ก็น่าจะได้กระเป๋าที่เหมาะสมกับทั้งเราและ Notebook ของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้วละครับ จะมีอะไรดีไปกว่าการพกพาอุปกรณ์ที่เป็นดั่งคู่หูของเราไปได้แบบสบายตัว ไม่ต้องห่วงเรื่องการกระแทก แถมยังมีพื้นที่พอสำหรับเก็บของในแบบของเราอีกด้วย
แต่ถ้ายังไม่มีไแเดียว่า จะเลอืกกระเป๋าใบไหนดี แชทหาเราที่เพจตามรายการด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ ~~
Manfrotto Thiland : https://www.facebook.com/ManfrottoThailand/
Lowepro Thailand : https://www.facebook.com/LoweproTH/
Joby Thailand : https://www.facebook.com/jobythailandofficial/
Spyder Thailand : https://www.facebook.com/DatacolorSpyderTH/
เพจหลักบริษัท : https://www.facebook.com/advancedphotosystems/