การเป็นนักพากษ์มืออาชีพนั้นต้องการมากกว่าแค่เสียงที่ไพเราะ การมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยมได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น มาดูกันว่าอุปกรณ์สำคัญที่นักพากษ์ควรมีคืออะไรบ้าง
1. ไมค์คอนเดนเซอร์
เหตุผลที่ไมค์คอนเดนเซอร์สำคัญสำหรับการพากษ์เสียง
ความไวสูง : ไมค์คอนเดนเซอร์มีความไวต่อเสียงสูงมาก ทำให้สามารถจับเสียงเบาๆ หรือรายละเอียดปลีกย่อยได้ดีกว่าไมค์ประเภทอื่นๆ ส่งผลให้เสียงพากย์มีความคมชัด ใส และเป็นธรรมชาติ
ช่วงความถี่กว้าง : ไมค์คอนเดนเซอร์สามารถจับช่วงความถี่เสียงได้กว้าง ทำให้สามารถบันทึกเสียงได้ครบถ้วน ทั้งเสียงต่ำและเสียงสูง ทำให้ได้โทนเสียงที่สมบูรณ์และเป็นธรรมชาติ
คุณภาพเสียงดีเยี่ยม : ด้วยความไวสูงและช่วงความถี่ที่กว้าง ทำให้ไมค์คอนเดนเซอร์สามารถบันทึกเสียงได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ส่งผลให้เสียงพากย์มีความคมชัดและมีมิติ
เหมาะกับการใช้งานในสตูดิโอ : ไมค์คอนเดนเซอร์มักถูกออกแบบมาให้ใช้งานในสตูดิโอ เนื่องจากต้องการสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเพื่อให้ได้เสียงที่บริสุทธิ์ที่สุด
หลากหลายรูปแบบ : ไมค์คอนเดนเซอร์มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบ USB, XLR และแบบไร้สาย เพื่อให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกัน

2. Pop Filter (แผ่นกันเสียง)
Pop filter เป็นอุปกรณ์เสริมที่สำคัญมากสำหรับการพากษ์เสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ที่มีความไวสูง
ทำไม pop filter ถึงจำเป็น?
ลดเสียงป๊อบ : ช่วยลดเสียง “ป๊อบ” หรือเสียงลมที่เกิดจากการออกเสียงพยัญชนะที่มีลมแรง เช่น พ ป ต ท ซึ่งเสียงเหล่านี้จะทำให้เสียงพากย์เสียความชัดเจนและเป็นมืออาชีพ
ป้องกันไมโครโฟน : ช่วยปกป้องไดอะแฟรมของไมโครโฟนจากละอองน้ำลายและฝุ่นละออง ช่วยยืดอายุการใช้งานของไมโครโฟนได้นานขึ้น
ปรับปรุงคุณภาพเสียง : ช่วยให้เสียงพากษ์มีความใส สะอาด และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ลดเสียงรบกวน : ช่วยลดเสียงรบกวนจากลมหายใจหรือเสียงหายใจแรงขณะพูด
*** หมายเหตุ : ควรใช้ร่วมกับแขนจับไมโครโฟน

ขอบคุณภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Pop_filter
3. ออดิโออินเตอร์เฟส
Audio interface เป็นอุปกรณ์สำคัญมากสำหรับการพากษ์เสียงค เพราะมันทำหน้าที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างไมโครโฟนของคุณกับคอมพิวเตอร์ ช่วยให้คุณสามารถบันทึกเสียงได้อย่างมีคุณภาพสูง
ทำไม audio interface ถึงจำเป็น?
- คุณภาพเสียงที่ดีกว่า: audio interface มักจะมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่าที่ได้จากการเสียบไมโครโฟนเข้ากับช่องเสียบหูฟังของคอมพิวเตอร์โดยตรง ทำให้เสียงที่ได้มีความคมชัด ใส และมีรายละเอียดมากขึ้น
- ลดเสียงรบกวน: audio interface ช่วยลดเสียงรบกวนจากสัญญาณไฟฟ้า ทำให้เสียงที่บันทึกได้มีความบริสุทธิ์มากขึ้น
- ปรับแต่งเสียง: audio interface บางรุ่นมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้คุณปรับแต่งเสียงได้หลากหลาย เช่น ปรับระดับเสียงเบส เสียงแหลม หรือเพิ่มเอฟเฟ็กต์ต่างๆ
- เชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ: audio interface สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้หลากหลาย เช่น หูฟัง, ลำโพง, หรือเครื่องดนตรีอื่นๆ ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างหลากหลายมากขึ้น

ออดิโออินเตอร์เฟส FIFINE AMPLITANK AMPLI3 AUDIO MIXER
4.DAW (Digital Audio Workstation)
DAW (Digital Audio Workstation) หรือโปรแกรมตัดต่อเสียง นั้นเปรียบเสมือนสตูดิโอบันทึกเสียงในรูปแบบดิจิทัลบนคอมพิวเตอร์ของคุณเลยครับ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพากษ์เสียงอย่างมาก เพราะช่วยให้คุณสามารถ:
- บันทึกเสียง: DAW ช่วยให้คุณบันทึกเสียงจากไมโครโฟนของคุณได้อย่างง่ายดาย และมีคุณภาพสูง
- แก้ไขเสียง: หลังจากบันทึกแล้ว คุณสามารถแก้ไขเสียงได้หลากหลาย เช่น ตัดช่วงที่ไม่ต้องการ ปรับระดับเสียง ลดเสียงรบกวน หรือเพิ่มเอฟเฟ็กต์ต่างๆ
- มิกซ์เสียง: เมื่อมีการบันทึกหลายๆ เสียง คุณสามารถนำมาผสมผสานกัน หรือที่เรียกว่ามิกซ์เสียง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ
- ส่งออกไฟล์: เมื่อได้เสียงที่ต้องการแล้ว คุณสามารถส่งออกไฟล์เสียงในรูปแบบต่างๆ เพื่อนำไปใช้งานต่อ เช่น ไฟล์ MP3, WAV หรือ AIFF

Thank you for the picture from https://www.steinberg.net/cubase/
5. หูฟัง (Headphones)
- ความสำคัญ: ช่วยให้คุณได้ยินเสียงที่บันทึกออกมาอย่างชัดเจน เพื่อตรวจสอบคุณภาพเสียงและแก้ไขปัญหาได้ทันที

นอกจากคุณภาพของเสียงแล้ว การใช้อุปกรณ์ที่ดี ส่งผลดียังไงต่อนักพากษ์และผลงานบ้าง?
- ความมั่นใจของนักพากย์: เมื่อใช้อุปกรณ์ที่ดี นักพากย์จะมั่นใจในคุณภาพของงานที่ทำออกมา ทำให้สามารถแสดงอารมณ์ได้อย่างเต็มที่
- ประสิทธิภาพในการทำงาน: การใช้อุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายจะช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน ทำให้นักพากย์สามารถทำงานได้มากขึ้น
- ภาพลักษณ์ของนักพากย์: การมีอุปกรณ์ที่ดีแสดงให้เห็นว่านักพากย์มีความเป็นมืออาชีพและใส่ใจในคุณภาพงาน