ไมโครโฟน หรือที่หลายคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า “ไมค์” เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญมากในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการทำวิดีโอคอนเทนต์ ไลฟ์สด พอดแคสต์ การเรียนออนไลน์ หรือแม้แต่การสื่อสารทางไกลอย่าง Zoom, Skype, Teams ก็ตาม หากไม่มีไมโครโฟน หรือมีไมค์คุณภาพไม่ดี เสียงที่ได้ย่อมขาดความคมชัด ทำให้การสื่อสารไม่สมบูรณ์
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกว่า ไมโครโฟนมีกี่ประเภท? แต่ละแบบ มีข้อดี-ข้อเสียอะไร และเหมาะกับการใช้งานแบบไหน เพื่อให้คุณเลือกไมค์ได้ตรงความต้องการที่สุด
ไมโครโฟน คืออะไร? ทำงานอย่างไร?
ไมโครโฟน คือ อุปกรณ์ที่เปลี่ยน คลื่นเสียง ให้กลายเป็น สัญญาณไฟฟ้า เพื่อส่งไปยังอุปกรณ์ปลายทาง เช่น คอมพิวเตอร์ กล้อง มิกเซอร์ ลำโพง หรือเครื่องบันทึกเสียง การแปลงเสียงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าอาศัยชิ้นส่วนกลไกภายในที่ตอบสนองต่อแรงสั่นสะเทือนของอากาศจากเสียงพูดหรือเสียงดนตรี แล้วจึงเปลี่ยนเป็นสัญญาณที่สามารถประมวลผลได้

ไมโครโฟน มีกี่ประเภท? แบ่งอย่างไร?
ไมโครโฟนสามารถแบ่งได้หลายแบบ ทั้งตาม “หลักการทำงาน”, “ลักษณะการรับเสียง”, และ “รูปแบบการใช้งาน” ในบทความนี้เราจะเน้นการแบ่งตาม หลักการทำงาน ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สุด โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่:
- ไมโครโฟนแบบไดนามิก (Dynamic Microphone)
- ไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ (Condenser Microphone)
- ไมโครโฟนแบบริบบอน (Ribbon Microphone)
เรามาดูกันทีละประเภทอย่างละเอียด
ไมโครโฟน มีกี่ประเภท? แบ่งอย่างไร?
ไมโครโฟนสามารถแบ่งได้หลายแบบ ทั้งตาม “หลักการทำงาน”, “ลักษณะการรับเสียง”, และ “รูปแบบการใช้งาน” ในบทความนี้เราจะเน้นการแบ่งตาม หลักการทำงาน ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สุด โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่:
- ไมโครโฟนแบบไดนามิก (Dynamic Microphone)
- ไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ (Condenser Microphone)
- ไมโครโฟนแบบริบบอน (Ribbon Microphone)
1. ไมโครโฟนแบบไดนามิก (Dynamic Microphone)

หลักการทำงาน
ใช้ขดลวด (coil) และแม่เหล็กถาวร เมื่อคลื่นเสียงมากระทบไดอะแฟรม ขดลวดจะเคลื่อนไหวในสนามแม่เหล็กและสร้างสัญญาณไฟฟ้าขึ้นมา
จุดเด่น
- ทนทานสูง ใช้งานได้แม้ในสภาพแวดล้อมหนัก
- รับเสียงดังได้ดี ไม่บิดเบือน (เหมาะกับกลอง, กีตาร์)
- ไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยง (phantom power)
จุดด้อย
- ความไวต่อเสียงต่ำกว่าไมค์คอนเดนเซอร์
- รายละเอียดเสียงอาจไม่ครบถ้วนเท่าแบบอื่น
เหมาะกับการใช้งาน
- คาราโอเกะ
- เวทีแสดงสด
- พิธีกรกลางแจ้ง
- อัดเครื่องดนตรีเสียงดัง
2. ไมโครโฟน แบบคอนเดนเซอร์ (Condenser Microphone)

หลักการทำงาน
ใช้แผ่นฟิล์มบาง (ไดอะแฟรม) และแผ่นโลหะอีกแผ่นเพื่อสร้างตัวเก็บประจุ เมื่อเสียงมากระทบ ไดอะแฟรมจะสั่นทำให้ค่าความจุเปลี่ยน และแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า โดยต้องใช้ ไฟเลี้ยง (Phantom Power)
จุดเด่น
- ให้เสียงคมชัด รายละเอียดสูง
- ตอบสนองต่อเสียงเบาได้ดี
- เหมาะกับเสียงร้อง เสียงพูด และเสียงเครื่องดนตรี
จุดด้อย
- เปราะบางกว่าชนิดอื่น
- แพ้ความชื้น ต้องดูแลมากขึ้น
- ไม่เหมาะกับเสียงดังมาก
เหมาะกับการใช้งาน
- ห้องอัดเสียง
- พอดแคสต์
- ยูทูบเบอร์
- ไลฟ์สดแบบมืออาชีพ
3. ไมโครโฟน แบบริบบอน (Ribbon Microphone)

หลักการทำงาน
ใช้แผ่นฟอยล์บางมาก (ริบบอน) อยู่ระหว่างสนามแม่เหล็ก เมื่อเสียงมากระทบ ริบบอนจะเคลื่อนไหวและเกิดสัญญาณไฟฟ้า
จุดเด่น
- ให้เสียงนุ่ม ละมุนแบบวินเทจ
- เก็บเสียงธรรมชาติได้ดีมาก
- ลักษณะรับเสียงทิศทางสองด้าน (figure-8)
จุดด้อย
- เปราะบางที่สุดในบรรดาไมค์ทั้งหมด
- ไม่เหมาะกับเสียงดัง
- ราคาสูง
เหมาะกับการใช้งาน
- บันทึกเสียงร้องแนวแจ๊ส
- เครื่องสาย/เครื่องเป่า
- งานดนตรีคลาสสิก
เลือก ไมค์ แบบไหนดี?
ขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ของคุณ เราแบ่งแนะนำได้ดังนี้
วัตถุประสงค์ | ไมค์แนะนำ |
ร้องเพลงสด | ไดนามิก |
ไลฟ์สดขายของ | คอนเดนเซอร์ / Lavalier Wireless |
พอดแคสต์ | คอนเดนเซอร์ XLR หรือ USB |
ถ่ายวิดีโอกลางแจ้ง | Shotgun / Wireless Lavalier |
อัดเสียงเครื่องดนตรี | คอนเดนเซอร์ / ริบบอน |
ประชุมออนไลน์ | USB Mic / หูฟังมีไมค์ |
วิธีดูแลและบำรุงรักษาไมโครโฟน
- เก็บในที่แห้ง ไม่ชื้น
- หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
- ใช้ Pop Filter และโฟมกันลม
- ไม่เป่าหรือเคาะไมค์โดยตรง
- เก็บในกล่องหรือกระเป๋าพกพา
- ทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งหรือผ้าไมโครไฟเบอร์
- สำหรับไมค์ไร้สาย – อย่าปล่อยให้แบตหมดสนิท
จากที่กล่าวมา
การเข้าใจประเภทของไมโครโฟนช่วยให้คุณเลือกใช้งานได้ตรงจุด ประหยัดงบ และได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดสำหรับงานของคุณไมค์ที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด แต่ต้องเหมาะกับสถานการณ์ และรู้วิธีดูแลอย่างถูกต้อง บทความนี้หวังว่าจะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดขึ้นว่าไมโครโฟนแต่ละประเภทนั้น “มีจุดแข็ง” ที่แตกต่าง และไม่มีไมค์ตัวไหนที่เหมาะกับ “ทุกงาน”
ท่านสามารถติดตามสินค้าอื่นๆได้ที่ www.advancedphotosystems.com หรือติดตามได้ที่แฟนเพจของเราได้ที่ www.facebook.com/advancedphotosystems