ในยุคดิจิทัลที่เราใช้สายตาจ้องมองหน้าจอและอุปกรณ์ต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ แสงสว่างภายในอาคารจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพดวงตาของเรา ไม่ใช่แค่ความสว่างที่เพียงพอ แต่เป็นคุณภาพของแสงที่ต้องคำนึงถึง เพื่อลดผลกระทบต่อสายตาในระยะยาว และนี่คือที่มาของมาตรฐาน RG0 (Risk Group 0) ซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญในการเลือกซื้อหลอดไฟถนอมสายตา แต่ RG0 มักจะมาในรูปแบบของไฟบ้านน่ะสิครับ แล้วสายสตรีมเมอร์แบบเราที่ต้องไลฟ์สดเปิดแสงไฟอยู่ทุกวัน ต้องเลือกไฟแบบไหน และมีแบรนด์ไหนที่ผลิตออกมาบ้าง มาเริ่มอ่านกันได้เลยครับ
RG0 คืออะไร? ทำไมต้องสนใจ?
RG0 ย่อมาจาก “Risk Group 0” ซึ่งเป็นระดับความเสี่ยงต่ำที่สุดตามมาตรฐานความปลอดภัยทางแสงของ IEC/EN 62471 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Photobiological Safety of Lamps and Lamp Systems” มาตรฐานนี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อประเมินความเสี่ยงที่แสงจะก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาและผิวหนัง โดยแบ่งระดับความเสี่ยงออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่:
RG0 (Exempt)
กลุ่มที่ไม่มีความเสี่ยงหรือมีความเสี่ยงน้อยมากที่สุด ถือเป็นแสงที่ปลอดภัยต่อดวงตาภายใต้สภาวะการใช้งานปกติ ไม่ว่าจะจ้องมองเป็นเวลานานเท่าใดก็ตาม

RG1 (Low Risk)
กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ยังคงปลอดภัยหากใช้งานอย่างถูกวิธีและไม่จ้องมองโดยตรงเป็นเวลานาน

RG2 (Medium Risk)
กลุ่มที่มีความเสี่ยงปานกลาง อาจก่อให้เกิดอันตรายหากสัมผัสแสงโดยตรงเป็นเวลานาน

RG3 (High Risk)
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงโดยตรงโดยเด็ดขาด

ทำไม RG0 จึงสำคัญต่อไฟถนอมสายตา?
หัวใจสำคัญของมาตรฐาน RG0 สำหรับไฟถนอมสายตาคือการระบุว่าแสงที่ออกมาจากหลอดไฟนั้นมีคลื่นแสงสีน้ำเงิน (Blue Light) ในปริมาณที่ต่ำมาก หรืออยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อเรตินาของดวงตา แม้จะมีการใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานก็ตาม

การส่งผลเสียต่อสายตา
แสงสีน้ำเงินเป็นส่วนหนึ่งของสเปกตรัมแสงที่สามารถทะลุผ่านกระจกตาและเลนส์ตาเข้าไปยังจอประสาทตา (เรตินา) ได้โดยตรง การได้รับแสงสีน้ำเงินในปริมาณมากเกินไปหรือเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อดวงตาได้ เช่น:
- อาการตาล้า ตาแห้ง โดยเฉพาะเมื่อใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ดิจิทัล
- การรบกวนวงจรการนอนหลับ แสงสีน้ำเงินสามารถยับยั้งการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการนอนหลับ
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อม (AMD) ในระยะยาว การสะสมของความเสียหายจากแสงสีน้ำเงินอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพดวงตาที่รุนแรงขึ้น
การที่หลอดไฟผ่านการรับรองมาตรฐาน RG0 หมายความว่าผู้ผลิตได้ออกแบบและทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อให้มั่นใจว่าแสงที่ปล่อยออกมานั้นอยู่ในระดับที่ปลอดภัย ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถรู้สึกสบายตา ลดความเมื่อยล้า และลดความเสี่ยงของปัญหาดวงตาที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับแสงที่ไม่เหมาะสม
เลือกไฟถนอมสายตา มองหา RG0
ในครั้งต่อไปที่คุณกำลังมองหาหลอดไฟสำหรับบ้านหรือสำนักงาน ลองมองหาสัญลักษณ์หรือข้อความที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านมาตรฐาน RG0 หรือ “Exempt” ตามมาตรฐาน IEC/EN 62471 นี่คือวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าแสงสว่างที่คุณเลือกนั้นเป็นมิตรต่อดวงตาของคุณอย่างแท้จริง มอบความสบายตา และช่วยถนอมสายตาในระยะยาว เพื่อการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างมีความสุขและสุขภาพดี
สำหรับสตรีมเมอร์ล่ะ มีไฟสตูไหนที่มีเทคโนโลยี RG0
ตอนนี้จากการศึกษาในตลาด แบรนด์เดียวและรุ่นเดียวที่มีมาตรฐาน RG0 มีแค่รุ่น amaran Verge/Verge Max เท่านั้นครับ

amaran Verge Max คืออะไร?
Amaran Verge Max เป็นไฟ LED Panel แบบวงกลมขนาดใหญ่ (เส้นผ่านศูนย์กลาง 55 ซม. หรือ 22 นิ้ว) ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับคอนเท้นต์ครีเอเตอร์ที่ทำงานในพื้นที่จำกัด เช่น สตรีมเมอร์, Beauty Blogger, Live ขายสินค้าออนไลน์ หรือผู้ที่จัดสตูดิโอที่บ้านขนาดเล็ก นอกจากจะช่วยให้ประหยัดพื้นที่แล้ว ยังมีมาตรฐาน RG0 ที่จะช่วยถนอมสายตา นั่งไลฟ์สดไปนานๆไม่ปวดตาแน่นอน
1. แสงคุณภาพสูงและนุ่มนวล
- แสงนุ่มเหมือน Soft Box ในขนาดที่บางเฉียบ Amaran Verge Max ใช้เทคโนโลยี Edge-lit LED ที่กระจายแสงจากขอบเข้าสู่แผ่นนำแสงตรงกลาง ทำให้ได้แสงที่นุ่มนวลและกระจายตัวได้ดีคล้ายกับไฟ Soft Box ทั่วไป แต่มีความลึกเพียง 9% ของ Soft Box จริง ช่วยประหยัดพื้นที่ได้อย่างมาก เหมาะสำหรับใช้เป็น Key Light (ไฟหลัก) ที่ให้แสงสวยงามและเป็นธรรมชาติกับใบหน้า
- ปลอดภัยต่อดวงตา (RG0-certified) ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้นานโดยไม่ทำให้ปวดตา มีการลดแสงสีฟ้า (Low Blue Light) และปราศจากการกระพริบ (Flicker-free) ทำให้เหมาะสำหรับการไลฟ์สดหรือการทำงานที่ต้องใช้แสงเป็นเวลานาน
2. ความแม่นยำของสีและความยืดหยุ่นในการปรับแต่งที่หลากหลาย
- ปรับอุณหภูมิสีได้กว้าง สามารถปรับอุณหภูมิสีได้ตั้งแต่ 2700K (แสงวอร์มไวท์) ถึง 6500K (แสงคูลไวท์) ช่วยให้คุณสามารถปรับแสงให้เข้ากับบรรยากาศหรือโทนสีที่ต้องการได้
- ค่าสีที่แม่นยำสูง มีค่า CRI (Color Rendering Index) ถึง 96 และ TLCI (Television Lighting Consistency Index) 98 ซึ่งเป็นค่าที่สูงมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแสดงสีของวัตถุได้อย่างถูกต้องและสมจริง
- ความสว่างที่ปรับได้ ปรับความสว่างได้ตั้งแต่ 0-100% แบบ Stepless (ปรับได้ละเอียดไม่เป็นขั้นๆ) ทำให้ควบคุมปริมาณแสงได้อย่างแม่นยำ
3. การออกแบบและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์
- ดีไซน์บางเฉียบและสวยงาม ตัวไฟมีความบางเพียง 3.6 ซม. ทำให้ไม่เกะกะและดูมินิมอล มีให้เลือกทั้งสีขาวและสีดำ เพื่อให้เข้ากับการตกแต่งสตูดิโอหรือโต๊ะทำงานของคุณ
- ควบคุมง่ายหลายช่องทาง สามารถควบคุมได้จากปุ่มบนตัวเครื่อง, ผ่านแอปพลิเคชัน amaran app (Sidus Link) หรือแม้กระทั่งผ่าน Stream Deck ทำให้สะดวกสบายในการปรับแต่ง
- การติดตั้งที่ยืดหยุ่น มาพร้อมกับขาตั้งแบบหนีบโต๊ะ (Desk Clamp Stand) ที่สามารถยืดแขน ปรับขึ้นลง ก้มเงย และหมุนได้ 360 องศา ทำให้สามารถจัดตำแหน่งแสงได้อย่างแม่นยำในพื้นที่จำกัด และยังมี Mount สำหรับติดตั้งกับขาตั้งไฟทั่วไปได้อีกด้วย
- ใช้ไฟผ่าน USB-C PD รองรับการจ่ายไฟแบบ USB-C PD (Power Delivery) ที่กำลังไฟ 65W ทำให้สายไม่เกะกะและสามารถใช้ร่วมกับอะแดปเตอร์ USB-C PD อื่นๆ ได้
- ทำงานเงียบ ไร้เสียงรบกวน มีระบบระบายความร้อนแบบ Passive Cooling (ไร้พัดลม) ทำให้ไม่มีเสียงรบกวนขณะใช้งาน เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอหรือไลฟ์สดที่ต้องการเสียงที่ใสสะอาด
- เอฟเฟกต์แสง 7 แบบ มีเอฟเฟกต์แสงในตัว เช่น ดอกไม้ไฟ, หลอดไฟเสีย, ฟ้าผ่า, ทีวี, แฟลช, ระเบิด, ไฟ ที่เพิ่มความสร้างสรรค์ในการถ่ายทำ
สรุป
สำหรับสตรีมเมอร์ สิ่งที่หลายคนมองข้าม และไม่คิดว่ามันจะสำคัญมากๆ นั่นก็คือแสงที่กระทบต่อตาเราในการนั่งกลางแสงไฟสตูดิโอนานๆ จึงเกิดอาการล้า ปวดตา หรือทำให้เกิดไมเกรน จะดีกว่าไหม ถ้าคุณเลือกมาใช้ไฟสตูดิโอที่มีมาตรฐาน RG0 และเป็นไฟสตูดิโอที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้ในการสตรีมไลฟ์สดโดยเฉพาะ ดังนั้น amaran Verge จึงเป็นทางออกตัวเลือกเดียวสำหรับเพื่อนๆในขณะนี้ครับ
หากเพื่อนๆสนใจ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ amaran Thailand หรือ advanced photo systems ได้เลยครับ