หลายคนคงเคยสงสัยกันใช่มั้ยครับ เวลาที่เราเลือกซื้อไมโครโฟนไร้สาย ไมค์ Wireless ลำโพง หรืออาจจะเคยได้ยินทางสื่อต่างๆ ที่บอกกันว่าเปิดเพลงเสียงดังๆจะส่งผลเสียต่อหู หรือเสียงดังไปอาจทำให้ไมค์ไร้สายของเรามีปัญหาได้ ซึ่งหัวใจหลักที่เราควรคำนึงถึง ก็คือค่า SPL หรือที่เรียกกันว่าค่าความดันเสียงนั่นเอง อ่าว! แล้วค่าความดันเสียงนี้คืออะไรล่ะ และทำไมเราต้องคำนึงถึงค่านี้ด้วย วันนี้ผมจะมาอธิบายให้ฟังกันครับในบทความ ” ค่า SPL คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ ” ว่าค่าความดันเสียงเนี่ย มันสำคัญอย่างไร? ทำไมเราต้องศึกษาและควรรู้
ค่า SPL คืออะไร?
SPL หรือชื่อเต็มว่า Sound Pressure Level หรือที่แปลว่า ค่าความดันเสียง SPL เป็นค่าที่ใช้วัดความดังสูงสุดของเสียง ซึ่งหน่วยที่ใช้วัดค่า SPL ก็คือ เดซิเบล (dB) นั่นเอง เมื่อมีเสียงที่ดังมาก นั่นแปลว่าค่าความดันเสียงก็จะสูงมากเช่นกัน เราสามารถวัดค่าความดันเสียงได้ด้วยเครื่อง Sound Level Meter
ตัวอย่างระดับ SPL โดยประมาณ
กิจกรรม/เสียง | ระดับ SPL (dB SPL) โดยประมาณ |
---|---|
เสียงกระซิบ | 20–30 dB SPL |
เสียงพูดปกติ | 60–70 dB SPL |
การจราจรในเมือง | 80–90 dB SPL |
คอนเสิร์ตร็อค | 110–120 dB SPL |
เสียงเครื่องบินขณะบินผ่าน | 130–140 dB SPL |

เครื่องวัดความดันเสียง Sound Level Meter
ที่มาของตัวย่อ SPL
- Sound (เสียง) เสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ ทำให้เกิดคลื่นเสียงแผ่กระจายออกไปในอากาศ คลื่นเสียงเหล่านี้จะสร้างแรงดันบนแก้วหูของเรา ทำให้เรารับรู้ถึงเสียง
- Pressure (แรงดัน) คลื่นเสียงจะสร้างแรงดันอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป แรงดันนี้วัดเป็นหน่วยปาสคาล (Pa)
- Level (ระดับ) เนื่องจากช่วงของแรงดันเสียงที่มนุษย์ได้ยินกว้างมาก จึงใช้หน่วยเดซิเบล (dB) ซึ่งเป็นหน่วยลอการิทึม เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
แหล่งกำเนิดเสียงรอบๆตัวมีความดังกี่เดซิเบล?
สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา จะมีแหล่งกำเนิดเสียงมากมายให้เราได้ยินครับ บางอย่างก็มีเสียงที่เบา สบายหู ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ส่วนบางเสียงก็มีเสียงที่ดังมากๆ ฟังแล้วรู้สึกรำคาญ และนอกเหลือที่จะทำให้เราหงุดหงิดกับเสียงที่ได้ยินนั้น คือการส่งผลเสียต่อหู และอุปกรณ์บันทึกเสียงด้วยเช่นกัน มาดูกันว่า เสียงแต่ละเสียงนั้น มีความดังเท่าไหร่บ้าง ผมจะยกตัวอย่างในตารางให้ดูกันครับ

ตารางการวัดค่า dB ของแหล่งกำเนิดเสียงต่างๆที่อยู่รอบๆตัวเรา
ค่า SPL ที่สูง ส่งผลเสียต่อสุขภาพหูอย่างไร?
- เสียงดังเกินไป โดยปกติแล้ว คนเราควรได้รับเสียงไม่เกิน 85 dB การได้รับเสียงดังเกิน 85 dB เป็นเวลานาน อาจเป็นอันตรายต่อการได้ยิน ทำให้หูตึงหรือสูญเสียการได้ยินได้
- การป้องกัน ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ที่อุดหู

เสียงเจาะถนน เสียงก่อสร้าง หรือเสียงจราจรติดขัด มีค่าความดันเสียงที่สูง ส่งผลเสียต่อหู
ค่า SPL ที่สูง ส่งผลเสียต่อ ไมค์ Wireless อย่างไร?
หลายคนคงสงสัยว่าค่า SPL สูง ส่งผลเสียต่อไมโครโฟนไร้สายได้อย่างไร อย่างที่ผมบอกไปว่าการที่เราฟังเสียงที่ดังเกินไป อาจส่งผลเสียต่อแก้วหูได้ในระยะยาว ไมโครโฟนก็เช่นกันครับ หากไมโครโฟนที่เพื่อนๆใช้อยู่ รับความดันสูงสุดของเสียงได้มาก ก็จะทำให้เพื่อนๆสามารถใช้ไมโครโฟนได้ยาวนานยิ่งขึ้น และได้เสียงที่ตรงและชัด แต่หากไมโครโฟนของเพื่อนๆ รับค่า SPL ได้น้อย แล้วนำไปใช้บันทึกเสียงที่มีความดังมากๆ จะส่งผลให้เสียงที่ได้นั้นแตก ไม่ชัด และอายุการใช้งานสั้นลง ดังนั้นในการเลือกซื้อ ไมค์ Wireless ไมโครโฟนไร้สาย เราควรดูรายละเอียดของสินค้าให้ชัดเจน ตามความเหมาะสมของเสียงที่เรานำไปใช้งาน เช่น หากนำไปใช้งานเสียงทั่วๆไป หรือเสียงพูด เราก็อาจจะเลือกไมโครโฟนที่ไม่ต้องการความดันเสียงที่สูงมาก ก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่หากเพื่อนๆต้องใช้ในสถานการณ์ที่มีเสียงดังมากๆ เราก็ควรเลือกไมโครโฟนที่มีค่า SPL สูงเช่นกัน เช่น หากเพื่อนๆ มีความจำเป็นต้องอัดเสียงในคอนเสิร์ต ก็ควรซื้อไมโครโฟนที่มีค่าความดันเสียงเกิน 120dB
ผลกระทบของ SPL สูงต่อ ไมค์ Wireless
- เสียงแตก (Distortion)
- เมื่อเสียงที่เข้าไมโครโฟนมีระดับ SPL สูงกว่าที่ไมค์สามารถรับได้ (เกิน Max SPL Rating) จะเกิด เสียงแตก ทันที เพราะแคปซูลรับเสียงไม่สามารถแปลงแรงดันเสียงที่สูงเกินไปให้เป็นสัญญาณได้อย่างถูกต้อง
- ปัญหานี้ยิ่งชัดเจนในสถานการณ์ที่เสียงดังต่อเนื่อง เช่น คอนเสิร์ต, การตะโกนใกล้ๆ ไมค์
- โอเวอร์โหลดภาคขยาย (Preamp Overload)
- หาก SPL สูงมากจนสัญญาณที่ส่งจากไมค์ไปยังตัวส่ง (transmitter) มีระดับสูงเกิน ตัว preamp หรือวงจรใน transmitter ก็อาจ โอเวอร์โหลด ได้ ทำให้เสียงขาดคุณภาพหรือขาดหาย
- ลดประสิทธิภาพของระบบ Wireless
- สัญญาณที่ผิดเพี้ยนจาก SPL สูงเกินไปจะถูกส่งแบบไร้สายไปยังตัวรับ (receiver) ซึ่งแม้ receiver จะรับสัญญาณได้ แต่ก็ ไม่สามารถแก้ไขความเพี้ยนต้นทาง ได้ ส่งผลให้เสียงที่ได้ไม่ชัด มี noise หรือเสียงแตกเป็นช่วง ๆ
- ความเสียหายต่ออุปกรณ์
- ในกรณีที่ใช้ SPL สูงบ่อยเกินไป อาจทำให้แคปซูลของไมค์หรือวงจรขยายเสียงใน transmitter สึกหรอเร็ว หรือเสียหายถาวร

ตัวอย่างไมโครโฟนไร้สายที่สามารถรับความดันเสียงได้สูงถึง 121dB นั่นคือ amaran Tag
วิธีป้องกัน
- ตรวจสอบ Max SPL ของไมค์ที่ใช้ (เช่น บางรุ่นรับได้ถึง 130–140 dB SPL)
- ใช้ ไมโครโฟนที่ออกแบบมาสำหรับเสียงดัง (เช่น สำหรับร้องเพลงร็อค หรือการใช้งานในคอนเสิร์ต)
- ตั้ง gain ที่ตัว transmitter ให้พอดี ไม่สูงเกินไป
- ใช้ pad switch (ถ้ามี) บนไมค์เพื่อช่วยลดระดับ input
- หลีกเลี่ยงการวางไมค์ใกล้แหล่งเสียงดังโดยตรง
คำแนะนำสำหรับมือใหม่ใช้งาน ไมค์ Wireless
- ไม่วางไมค์ใกล้แหล่งเสียงดังมากเกินไป
- ใช้ ฟองน้ำครอบไมค์ หรือ Pop Filter เพื่อช่วยลดความแรงของลม/เสียง
- เริ่มต้นด้วยการตั้ง Gain ต่ำ แล้วค่อยๆ เพิ่ม
- ทดลองเสียงก่อนใช้งานจริงเสมอ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ได้รับความรู้เรื่องค่า SPL กันแล้ว หวังว่าคงเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตไม่มากก็น้อย และยังเป็นแนวทางให้เพื่อนๆนำความรู้ที่ได้ ไปเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อไปโครโฟนได้อีก หากเพื่อนๆสนใจไมโครโฟนไร้สาย amaran Tag สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ https://advancedphotosystems.com/product-category/amaran/wireless-microphone/https://advancedphotosystems.com/product-category/amaran/wireless-microphone/ หรือทาง Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/advancedphotosystems