fbpx
ขั้วต่อ XLR

ขั้วต่อ XLR กับ TRS แตกต่างกันอย่างไร?

XLR : หัวใจสำคัญของการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูง

XLR เป็นขั้วต่อที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการเสียง เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือและสามารถส่งสัญญาณเสียงได้อย่างคมชัดและมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานบันทึกเสียงระดับมืออาชีพและการแสดงสด

XLR คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?

XLR เป็นขั้วต่อแบบ 3 ขั้ว ที่ออกแบบมาเพื่อส่งสัญญาณแบบสมดุล (balanced) ซึ่งช่วยลดสัญญาณรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้เสียงที่ใสและคมชัดกว่าการเชื่อมต่อแบบไม่สมดุล (unbalanced) นอกจากนี้ XLR ยังมีความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

ประโยชน์ของการเชื่อมต่อแบบ XLR

  • ลดสัญญาณรบกวน : สัญญาณรบกวนจากภายนอก เช่น สัญญาณวิทยุ หรือสัญญาณไฟฟ้า จะถูกตัดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้เสียงที่ใสและคมชัด
  • ระยะทาง : สามารถส่งสัญญาณได้ไกลโดยไม่สูญเสียคุณภาพเสียง
  • ความทนทาน : ตัวเชื่อมต่อแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน
  • คุณภาพเสียง : ให้เสียงที่สมจริงและเป็นธรรมชาติ
  • มาตรฐาน : เป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการเสียง

การใช้งาน XLR

XLR ถูกนำมาใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงหลากหลายประเภท เช่น

  • ไมโครโฟน : ไมโครโฟนคอนเดนเซอร์หรือไดนามิกเกือบทั้งหมดจะใช้ขั้วต่อ XLR เพื่อส่งสัญญาณเสียงไปยังมิกเซอร์หรืออุปกรณ์บันทึกเสียง

ไมโครโฟนไดนามิก

ภาพไมโครโฟนไดนามิก Fifine K688

  • มิกเซอร์ : มิกเซอร์ส่วนใหญ่จะมีช่องเสียบ XLR สำหรับเชื่อมต่อไมโครโฟนและอุปกรณ์เสียงอื่นๆ
  • อุปกรณ์บันทึกเสียง : อินเตอร์เฟซเสียง, เครื่องบันทึกเสียงดิจิทัล และอุปกรณ์บันทึกเสียงอื่นๆ มักจะมีช่องเสียบ XLR สำหรับเชื่อมต่อไมโครโฟนและอุปกรณ์เสียงอื่นๆ
ออดิโออินเตอร์เฟส

ภาพออดิโออินเตอร์เฟส FIFINE AMPLITANK AMPLI3 AUDIO MIXER

  • ลำโพง : ลำโพงสตูดิโอและลำโพงสำหรับงานแสดงสดบางรุ่นก็มีช่องเสียบ XLR

วิธีการต่อสาย XLR

การต่อสาย XLR นั้นค่อนข้างง่าย เพียงแค่เสียบปลั๊ก XLR ตัวผู้เข้ากับช่องเสียบ XLR ตัวเมียที่อุปกรณ์ โดยให้สังเกตตำแหน่งของขั้วให้ตรงกัน

ข้อควรระวัง:

  • สาย XLR : ควรเลือกใช้สาย XLR ที่มีคุณภาพดี เพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุด
  • การต่อสาย : ควรต่อสายให้แน่นหนา เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนและเสียงดังก้อง
  • การจัดการสาย : ควรจัดการสายให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการพันกันและความเสียหาย

ข้อ TRS

TRS เป็นตัวย่อมาจาก Tip, Ring, Sleeve ซึ่งเป็นชื่อเรียกของขั้วต่อแบบหนึ่งที่ใช้ในการส่งสัญญาณเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุปกรณ์เสียงต่างๆ เช่น เครื่องเสียง, อุปกรณ์บันทึกเสียง, และเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ การเชื่อมต่อแบบ TRS นั้นมีข้อดีหลายประการ เช่น ลดสัญญาณรบกวน, ส่งสัญญาณได้ไกล และมีความเสถียรสูงกว่าการเชื่อมต่อแบบอื่นๆ

โครงสร้างของขั้วต่อ TRS

  • Tip : เป็นขั้วที่อยู่ตรงกลาง ใช้สำหรับส่งสัญญาณเสียงช่องซ้าย (หรือสัญญาณหลัก)
  • Ring : เป็นวงแหวนที่อยู่ถัดจาก Tip ใช้สำหรับส่งสัญญาณเสียงช่องขวา (หรือสัญญาณรอง)
  • Sleeve : เป็นส่วนที่เป็นโลหะหุ้มภายนอก ใช้เป็นขั้วกราวด์ (Ground) เพื่อลดสัญญาณรบกวน

ส่วนประกอบของ TRS

ประเภทของสาย TRS

  • TRS (3.5mm) : เป็นขนาดที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในอุปกรณ์พกพาต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, และเครื่องเล่นเพลง
  • TRS (1/4 นิ้ว) : เป็นขนาดที่นิยมใช้ในอุปกรณ์เสียงระดับมืออาชีพ เช่น มิกเซอร์, ออดิโออินเตอร์เฟซ, และเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์

ประเภทสายส่งสัญญาณ TRS

ข้อดีของการเชื่อมต่อแบบ TRS

  • ลดสัญญาณรบกวน : การมีขั้วกราวด์ (Sleeve) ทำให้ลดสัญญาณรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ส่งสัญญาณได้ไกล : เหมาะสำหรับการส่งสัญญาณเสียงระยะไกลโดยไม่สูญเสียคุณภาพ
  • มีความเสถียรสูง : การเชื่อมต่อแบบ TRS มีความแข็งแรงและทนทาน ทำให้สัญญาณไม่ขาดหายง่าย
  • รองรับสัญญาณสเตอริโอ : สามารถส่งสัญญาณเสียงแบบสเตอริโอได้ ทำให้ได้เสียงที่มีมิติและสมจริงมากขึ้น

การใช้งานสาย TRS

บันทึกเสียง : เชื่อมต่อไมโครโฟนกับอุปกรณ์บันทึกเสียง

เชื่อมต่ออุปกรณ์เสียง : เช่น เชื่อมต่อไมโครโฟนกับมิกเซอร์, เชื่อมต่อเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์กับแอมป์

ส่งสัญญาณเสียง : เช่น ส่งสัญญาณเสียงจากคอมพิวเตอร์ไปยังลำโพง, ส่งสัญญาณเสียงจากเครื่องเล่นเพลงไปยังหูฟัง

สรุปความแตกต่างระหว่างขั้วต่อ XLR และ TRS

การเลือกใช้ XLR หรือ TRS ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน หากคุณต้องการคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดและความทนทานต่อสัญญาณรบกวน XLR คือตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณต้องการความสะดวกในการพกพาและราคาที่ประหยัด TRS ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

XLR, TRS

ติดตามข่าวสาร หรือสินค้า Fifine ได้ที่ www.advancedphotosystems.com หรือ www.facebook.com/advancedphotosystems

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้เพื่อการวิเคาะห์ จะเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้บนเว็บไซต์ของเรา เพื่อประโยชน์ในการนำไปปรับปรุงเนื้อหา และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด

    คุกกี้จะทำการปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย จะทำการส่งข้อมูลความสนใจในเนื้อหาที่ผู้ใช้ได้อ่าน หรือมีกิจกรรมร่วมกันกับเนื้อหานั้น เพื่อนำส่งโฆษณาสินค้าที่ผู้ใช้อาจสนใจ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า